“สำหรับพี่ที่ไปแลกเปลี่ยนมาสองครั้ง ทรายคิดว่าข้อดีของการไปทั้งสองครั้งคือเราเติบโตมากขึ้นทุกครั้งที่ได้ไปค่ะ เติบโตในที่นี้คือทั้งด้านความรู้และการใช้ชีวิต เรื่องของความรู้ แน่นอนว่าอราไปเรียนไปศึกษา ก็ย่อมต้องได้ความรู้มากขึ้นโดยเฉพาะด้านภาษา พี่คิดว่าการที่ได้ไปอยู่ในสิ่งเเวดล้อมกับเจ้าของภาษามันทำให้เราพัฒนาได้เร็วขึ้นจริงๆ ส่วนในด้านการใช้ชีวิต เรื่องที่เป็นปัญหาที่สุดสำหรับพี่เลยคือการปรับตัว เพราะเราต้องเข้าใจก่อนว่านอกจากภาษาแล้ว วัฒนธรรมก็ยังแตกต่าง การยอมรับแลัเข้าใจความแตกต่างตรงนั้นคือสิ่งที่ดูเหมือนจะง่ายแต่นานมากกว่าพี่จะทำได้ จริงๆข้อดีของมันคือมันจะทำให้เรามีภูมิต้านทานเวลาที่เราจะต้องไกลบ้าน ทำงานต่างประเทศ หรือไปที่ไหนไกลๆ เราจะปรับตัวและมีทัศนคติที่ช่วยให้ตัวเองผ่านพ้นสถานการณ์ต่างๆไปได้ค่ะ

สิ่งที่อยากฝากถึงน้องๆ สำหรับใครที่กำลังลังเลว่าไปดีไหม ไม่ไปดีไหม พี่อยากบอกว่า มันคงเป็นสิ่งที่เสียใจที่สุดในชีวิตพี่ถ้าวันนั้นพี่ไม่ลงสมัครไป สิ่งที่พี่ได้รับมาคือมิตรภาพและประสบการณ์ที่ดีและคุ้มค่าที่สุดในชีวิตเลยค่ะ”

การไปแลกเปลี่ยนครั้งนี้นอกจากได้รับความรู้เรื่องภาษาแล้วยังได้ประสบการณ์และมิตรภาพดีๆ มุมมองในการมองโลกกว้างขึ้นเหมือนได้ดวงตาและสมองอีกคู่นึงครับ

การไปแลกเปลี่ยนเหมือนเป็นการเปิดประตูบานใหม่ในชีวิตเรา ให้ตัวเองได้ไปเรียนรู้พบเจออะไรใหม่ๆ ไปชาเล้นจ์ตัวเองว่ายังมีอะไรที่เราทำได้อีก รวมถึงการหาโอกาสให้ตัวเอง เก็บเกี่ยวความสัมพันธ์กับเพื่อน คนรอบตัวที่พบเจอระหว่างการเดินทางและประสบการณ์ที่ดี และสุดท้ายคือการได้เรียนรู้จากความผิดพลาดและประสบการณ์ไม่ดีต่างๆที่เราได้รับแล้วปรับเปลี่ยนแนวคิดและวิธีการของตัวเองเพื่อการใช้ชีวิตในอนาคต

การไปแลกเปลี่ยนต่างประเทศช่วยพัฒนาทักษะภาษาได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะการพูดและฟัง เพราะเราจำเป็นต้องใช้ภาษานั้น ๆ เพื่อสื่อสารในชีวิตประจำวัน รวมถึงได้รู้จักคนหลาย ๆ ชาติ เรียนรู้ความแตกต่างทางความคิด ภาษา และวัฒนธรรม นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้ในการปรับตัวในการใช้ชีวิต การอยู่ร่วมกับผู้อื่น การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า การอยู่ได้ด้วยตัวเอง และจัดการสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเอง ซึ่งทำให้เรามีความรับผิดชอบมากขึ้น การเจอปัญหาต่าง ๆ ทำให้เราเข้มแข็งและมีภูมิคุ้มกัน ไม่ว่าจะเจอเหตุการณ์อะไร ก็จะผ่านไปได้แน่นอน ประสบการณ์จากการไปแลกเปลี่ยนต่างประเทศถือว่าหาไม่ได้ง่าย ๆ เหมือนเปิดโลกเลยก็ว่าได้ ถ้ามีโอกาสพี่อยากให้น้อง ๆ ลองออกจาก comfort zone แล้วไปทำสิ่งใหม่ ๆ ที่ไม่เคยทำ ไม่แน่สิ่งนั้นอาจทำให้น้องพบเส้นทางของตัวเอง หรือทำให้น้องรู้จักตัวเองมากขึ้น  รวมถึงทำให้เรียนรู้ที่จะเติบโตและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขไม่ว่าจะเจอสถานการณ์แบบไหน

พี่ได้มีโอกาสมาแลกเปลี่ยนที่เมืองฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นระยะเวลา 1 ปี ผ่านโครงการทุนการศึกษาแลกเปลี่ยนของ FWU’s WJC Program  สิ่งที่พี่ได้เลยจากการแลกเปลี่ยนต่างประเทศครั้งแรกของพี่คือสังคมเเละเพื่อนใหม่  เนื่องจากสังคมเเละความเป็นอยู่ที่ต่างไป สิ่งนี้ทำให้พี่เรียนรู้ที่จะรู้จักปรับตัว ตัดสินใจทำอะไรด้วยตัวเอง เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น รวมถึงเข้าใจเเละเคารพผู้อื่นมากขึ้น เเละสำหรับเพื่อนใหม่ นอกจากเพื่อนคนญี่ปุ่นเเล้ว พี่ยังได้ทำความรู้จักกับเพื่อนจากหลากหลายประเทศมากๆ ไม่ว่าจะเป็นประเทศสวีเดน ไอซ์แลนด์ รัสเซีย ไต้หวัน อินโดนีเซีย หรือมาเลเซีย พี่ได้เรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ๆ ที่ไม่เคยรู้มาก่อนเเละเราเองก็ได้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมให้เขาฟังด้วย สุดท้ายนี้สิ่งที่พี่อยากแนะนำน้องๆ คือชีวิตเรามันไม่แน่นอน อยากทำอะไรทำเลย แต่ถ้าเรายังไม่รู้ว่าอยากทำอะไร ก็ค่อยๆหาตัวเองหรือลองออกจาก comfort zone ของตัวเองดู อย่างเช่นการไปแลกเปลี่ยนต่างประเทศก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ดีมากๆ ในการค้นหาตัวเองเเละเจอโลกกว้าง พี่ก็ขอให้น้องๆ สู้ๆนะคะ ถ้าเราตั้งใจจะทำอะไรสักอย่างเเล้ว พี่เชื่อว่าเราจะต้องทำมันได้ค่ะ

การเดินทางไปศึกษาที่ต่างประเทศเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นมาก ๆ เเน่นอนเลยว่าสิ่งที่น้อง ๆ จะได้คือ ประสบการณ์ที่หาไม่ได้ในประเทศไทย วัฒนธรรมที่แตกต่างกันทำให้เราต้องรู้จักปรับตัวอยู่เสมอ การมาศึกษาต่างประเทศ ทำให้มุมมองการมองโลกของตัวเองกว้างขึ้นมาก ได้ทำความรู้จักกับเพื่อนมากมาย มีการเข้าร่วมทำกิจกรรมที่หลายหลายเพื่อได้ให้ตัวเองได้หลุดออกจากกรอบเดิม ๆ เพราะเป็นการเดินทางไกลคนเดียวครั้งแรก จึงต้องพึ่งพาตนเองทุกอย่างซึ่งเป็นสิ่งที่สนุกมาก และซึ่งที่ได้เพิ่มมา คือ ภาษานั้นเอง ไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาที่สามอย่างภาษาเกาหลี ที่ตัวเองไม่เลยได้เรียนมาก่อนเลย จึงเป็นอะไรที่ท้าทายมาก ๆ แรก ๆ อาจจะยาก แต่คิดว่ามันคุ้มค่าที่จะลองแน่นอน 🙂