คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

สวัสดิการนักศึกษา

คณะศิลปศาสตร์

สวัสดิการนักศึกษา

เกี่ยวกับการเกณฑ์ทหาร

การเกณฑ์ทหารเป็นกฎหมายตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งในทางปฏิบัติพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2497 กำหนดหน้าที่นี้ให้เฉพาะชายที่มีสัญชาติเป็นไทยตามกฎหมายมีหน้าที่ต้องเข้ารับราชการทหารด้วยตนเองทุกคน   ชายไทยเริ่มเป็นทหารกองเกินนับแต่อายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ ทหารกองเกินอาจถูกเรียกไปรับการตรวจเลือกเพื่อเข้ากองประจำการได้เมื่ออายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ ทหารกองเกินเมื่อเข้ารับราชการทหารกองประจำการครบกำหนด หรือสำเร็จการฝึกวิชาทหารตามหลักสูตรที่กระทรวงกลาโหมกำหนด หรือมีอายุครบ 30 ปีบริบูรณ์ จะถูกปลดเป็นทหารกองหนุน เมื่อเวลาผ่านไปหรืออายุครบตามที่กำหนดทหารกองหนุนก็จะถูกปลดพ้นราชการทหาร ในระหว่างที่เป็นทหารกองเกินหรือทหารกองหนุนนั้น อาจถูกเรียกพลได้ตามที่กระทรวงกลาโหมเห็นสมควร และอาจถูกระดมพลได้หากมีพระราชกฤษฎีกา

ชายไทยจำนวนมากไม่ต้องรับราชการทหารกองประจำการเพราะผ่านการเรียนรักษาดินแดนครบสามปี หรืออาจมีเหตุได้รับการยกเว้นหรือผ่อนผันได้ตามที่กฎหมายกำหนดทำให้ไม่ต้องไปรับการตรวจเลือกหรือไปในวันตรวจเลือก แต่ถูกคัดออกเสียก่อน สำหรับผู้ที่ไม่ได้เรียนรักษาดินแดน หรือ เรียนไม่ครบหลักสูตรตามที่กระทรวงกลาโหมกำหนด (ไม่จบชั้นปีที่ 3) หรือ ผ่อนผันครบกำหนดแล้ว จะต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจเลือกเข้ากองประจำการเต็มขั้น โดยถูกจำแนกออกเป็นสี่จำพวกตามความสมบูรณ์ของร่างกาย หากมีผู้ประสงค์สมัครใจเข้ากองประจำการเต็มจำนวนที่รับแล้ว ก็จะไม่มีการจับสลาก ส่วนในกรณีที่มีผู้สมัครไม่พอและมีคนให้เลือกมากกว่าจำนวนที่ต้องการก็จะใช้วิธีจับสลากใบดำใบแดง ผู้จับได้ใบแดงจะต้องเข้ารับราชการทหารกองประจำการ

หน้าที่ของชายไทยทุกคนต้องรับราชการทหาร ซึ่งปกติการเกณฑ์ทหารจะกระทำกันในช่วงเดือน เม.ย. ของทุกปี ปีละครั้งและต้องเข้ารับราชการเป็นทหารเกณฑ์จำนวน 2 ปี แต่มีข้อยกเว้นและผ่อนผันสำหรับผู้ที่เรียนวิชารักษาดินแดน (ร.ด.) หรือผู้ที่สำเร็จการศึกษาในระดับต่าง ๆ ซึ่งกำหนดไว้ในพระราชบัญญัติรับราชการทหารและกฎกระทรวง

 

ขั้นตอนการเกณฑ์ทหาร

  1. การรับหมายเรียก (การรับหมายเกณฑ์) ทหารกองเกินทุกคนเมื่อมีอายุย่างเข้า 21 ปี (20 ปีบริบูรณ์) ใน พ.ศ.ใดต้องไปแสดงตน เพื่อรับหมายเรียกที่อำเภอท้องที่ที่เป็นภูมิลำเนาทหารของตน ภายใน พ.ศ.นั้น
  2. การเข้ารับการตรวจเลือก (การเข้าเกณฑ์ทหาร) ทหารกองเกินเมื่อได้รับหมายเรียกแล้วจะต้องไปเกณฑ์ทหารตามวัน เวลาและสถานที่ที่กำหนดไว้ในหมายเรียก
  3. การเข้ารับการเรียกพลของทหารกองหนุน ทหารที่ปลดจากกองประจำการโดยรับราชการในกองประจำการจนครบตามที่กฎหมายกำหนด หรือทหารกองเกินซึ่งสำเร็จการฝึกวิชาทหารตามกฎหมาย ว่าด้วยการส่งเสริมการฝึกวิชาทหาร และได้ขึ้นทะเบียนกองประจำการแล้วปลดเป็นทหารกองหนุน เมื่อมีหมายเรียกพล (เพื่อตรวจสอบ เพื่อฝึกวิชาทหาร หรือเพื่อทดลองความพรั่งพร้อม) จะต้องไปรายงานตัวเพื่อเข้ารับการฝึก หรือทบทวนวิชาทหารให้มีความรู้ความสามารถพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

การลงบัญชีทหารกองเกิน (ขึ้นทะเบียนทหาร)

ชายที่มีสัญชาติไทย เมื่อมีอายุย่างเข้า 18 ปี (17 ปีบริบูรณ์) ใน พ.ศ.ใด ให้ไปแสดงตนเพื่อลงบัญชีทหารกองเกิน (ไปขึ้นทะเบียนทหารกองเกิน) ณ อำเภอท้องที่ที่เป็นภูมิลำเนาทหารของตนภายใน พ.ศ.นั้น (ตั้งแต่ 1 ม.ค.- 31 ธ.ค.) เช่น เกิด พ.ศ. 2524 ต้องไปขึ้นทะเบียนทหารใน พ.ศ. 2541 ผู้ใดไม่สามารถไปขึ้นทะเบียนทหารกองเกินด้วยตนเองได้ ต้องให้บุคคลซึ่งบรรลุนิติภาวะ และเชื่อถือได้ไปแจ้งแทน (ปกติควรให้ผู้ปกครอง) ถ้าไม่ไปแจ้งแทนในปีนั้น ถือว่าหลีกเลี่ยงขัดขืน ทางอำเภอแจ้งความดำเนินคดีมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 300 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (ส่งให้พนักงานสอบสวน คือตำรวจเปรียบเทียบปรับไม่ได้ ต้องดำเนินคดีถึงชั้นศาล) เมื่อได้ลงบัญชีทหารกองเกินแล้ว ให้ถือว่าเป็นทหารกองเกินตั้งแต่ วันที่ 1 ม.ค. ของปีถัดไป

 

การผ่อนผันเกณฑ์ทหาร

ให้นักศึกษานำแบบ สด. 9 ไปขอรับหมายเรียก แบบ สด.35 ณ ที่ว่าการอำเภอตามภูมิลำเนาทหาร แล้วนำมาแสดงตนเพื่อขอผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร ณ หน่วยกิจการนักศึกษา คณะ/วิทยาลัยเขต/วิทยาเขต ต้นสังกัด ตั้งแต่วันที่ 1-31 ตุลาคม ในวันและเวลาราชการ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.orsa.mahidol.ac.th หรือ

โทร 02-849-4509 ในวันและเวลาราชการ

คุณสมบัติผู้ขอผ่อนผันการเกณฑ์ทหารและการเข้ารับการเรียกพล

  • ชายไทย อายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ แต่ไม่เกิน 26  ปี
  • กำลังศึกษาอยู่และไม่ได้เรียนหรือเรียนวิชาทหารไม่จบชั้นปีที่ 3

หลักฐานประกอบการผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร

  • สำเนาใบสำคัญ (แบบ สด.9) หน้า-หลังจำนวน 4 ชุด
  • สำเนาหมายเรียกเข้ารับราชการทหาร (แบบ สด.35) จำนวน 4 ชุด
  • สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 4 ชุด
  • หนังสือรับรองการเป็นนักศึกษา (ต้องเป็นฉบับจริง 1 ฉบับ) สำเนา 3 ฉบับ
  • สำเนาหลักฐานการเปลี่ยน ชื่อ-ชื่อสกุล (ถ้ามี) จำนวน 4 ชุด
  • สำเนาใบโอนย้ายภูมิลำเนา (ถ้ามี) จำนวน 4 ชุด
  • สำเนาบัตรนักศึกษา จำนวน 4 ชุด
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 4 ชุด

หมายเหตุ: โปรดตรวจสอบ หลักฐาน ข้อ 1–3 ชื่อ-นามสกุล ของผู้ขอผ่อนผัน/บิดา/มารดา ให้ตรงกันด้วย และต้องสำเนาให้ชัดเจนพร้อมลงนามรับรองสำเนาด้วยทุกฉบับ

หลักฐานประกอบการผ่อนผันการเรียกพล

  • สำเนาใบสำคัญ (แบบ สด.8) จำนวน 3 ชุด
  • สำเนาหมายเรียกพล (ถ้ามี) จำนวน 3 ชุด
  • สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 3 ชุด
  • สำเนาหลักฐานการเปลี่ยน ชื่อ-ชื่อสกุล (ถ้ามี) จำนวน 3 ชุด
  • สำเนาบัตรนักศึกษา จำนวน 3 ชุด
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 3 ชุด

หมายเหตุ: ต้องสำเนาให้ชัดเจนพร้อมลงนามรับรองสำเนาด้วยทุกฉบับ

 

หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมติดต่อ

หน่วยกิจการนักศึกษา งานการศึกษา

ผู้ประสานงาน คุณกัณฐรัตน์  ตะเพียนทอง

ประกาศด้าน สุขภาพ

OOCA” เป็น platform ปรึกษาจิตแพทย์ออนไลน์ ที่ช่วยให้น้อง ๆ สามารถพูดคุยปัญหากับจิตแพทย์และนักจิตวิทยา ผ่านทาง Video call โดยเข้าใช้งานได้อย่างเป็นส่วนตัวและปลอดภัย ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์มือถือ

อีกช่องทางความร่วมมือผ่านโครงการ “Wall of Sharing-กำแพงพักใจ”

โครงการที่จะทำให้น้อง ๆ มีสุขภาวะทางใจที่ดีขึ้น ^^

ก่อนเข้าใช้งานระบบ Ooca ให้นักศึกษาทำตามขั้นตอนนี้ค่ะ

1. นศ. ต้องเข้าไปแสดงความยินยอมเปิดเผยอีเมล์มหาวิทยาลัยก่อน โดยเข้าไปที่ Log in ที่ https://smartedu.mahidol.ac.th/ >สารสนเทศ นศ.> ระบบขึ้นทะเบียนสิทธิฯ >กดยินยอม

2. อีเมล์จะถูกนำเข้าระบบ Ooca ในวันอังคารถัดไป

การใช้งาน Ooca

1.Registerในแอพพลิเคชั่นOoca ด้วย อีเมล์นักศึกษา (อีเมล์ที่ลงท้ายด้วย ac.th )

2.เข้าไปใช้งานนัดหมายกับจิตแพทย์และนักจิตวิทยาในระบบและปรึกษาผ่านวีดีโอคอลได้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย

สามารถดูขั้นตอนการใช้งานที่ http://bit.ly/2MGS7jM

**การใช้งานผ่านอูก้าจะเป็นความลับ จะไม่มีการเปิดเผยตัวตนหรือข้อมูลส่วนตัวใดๆ ยกเว้นเพียงกรณีที่มีเหตุอันตรายถึงแก่ชีวิตที่จะระบบจะเปิดเผย id ให้กับเจ้าหน้าที่ทางมหาวิทยาลัยและประสานงานการดูแลเพื่อความปลอดภัยของต่อไปค่ะ

Photo Credit : ooca: Wall of Sharing